สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 41 เซนต์ ปิดที่ 93.68 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 12 เซนต์ ปิดที่ 110.88 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนจับตาดูสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 22 พ.ย.ในคืนนี้ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้นราว 800,000 -900,000 บาร์เรล ขณะเดียวกันคาดว่าสต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 800,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินอาจเพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังารกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 0.2%
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่าตลาดน้ำมันได้รับแรงกดดันจากการบรรลุข้อตกลงระยะเวลา 6 เดือนระหว่างอิหร่านและประเทศกลุ่ม P5+1 ซึ่งประกอบด้วย อังกฤษ จีน ฝรั่งเศส รัสเซีย สหรัฐ และเยอรมนี โดยภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว อิหร่านจะระงับกิจกรรมด้านนิวเคลียร์ เพื่อแลกกับการที่ชาติมหาอำนาจจะผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรมูลค่า 7 พันล้านดอลลาร์
ข้อตกลงดังกล่าวได้ฉุดราคาน้ำมันลง แม้ทำเนียบขาวเปิดเผยว่ามาตรการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของอิหรานจำนวนราว 1 ล้านบาร์เรลต่อวันจะยังคงดำเนินต่อไป หลังจากที่มีการประกาศข้อตกลงเมื่อวานนี้ที่นครเจนีวา
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ข้อตกลงนิวเคลียร์ครั้งล่าสุดแสดงให้เห็นว่าทั้งสองฝ่ายมีการประนีประนอมกันมากขึ้น และแม้ว่าจะไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่อการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน แต่ก็เป็นสัญญาณที่ดีสู่การผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรด้านน้ำมันในเร็วๆนี้
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า การบรรลุข้อตกลงครั้งนี้จะทำให้ปริมาณน้ำมันของอิหร่านกลับเข้าสู่ตลาดโลกมากขึ้นในระยะยาว ซึ่งจะส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง