สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 1.38 ดอลลาร์ ปิดที่ 92.3 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 43 เซนต์ ปิดที่ 111.31 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 22 พ.ย. พุ่งขึ้น 2.95 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 391.4 ล้านบาร์เล มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นราว 800,000 -900,000 บาร์เรล
ส่วนก่อนหน้านี้ การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) ซึ่งเป็นหน่วยงานเอกชนด้านพลังงานในสหรัฐ เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 22 พ.ย. พุ่งขึ้น 6.9 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรล
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่าตลาดน้ำมันได้รับแรงกดดันจากการบรรลุข้อตกลงระยะเวลา 6 เดือนระหว่างอิหร่านและประเทศกลุ่ม P5+1 ซึ่งประกอบด้วย อังกฤษ จีน ฝรั่งเศส รัสเซีย สหรัฐ และเยอรมนี โดยภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว อิหร่านจะระงับกิจกรรมด้านนิวเคลียร์ เพื่อแลกกับการที่ชาติมหาอำนาจจะผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรมูลค่า 7 พันล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า การบรรลุข้อตกลงครั้งนี้จะทำให้ปริมาณน้ำมันของอิหร่านกลับเข้าสู่ตลาดโลกมากขึ้นในระยะยาว ซึ่งจะส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง