สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 2.22 ดอลลาร์ ปิดที่ 96.04 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 1.29 ดอลลาร์ ปิดที่ 112.74 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กได้รับแรงหนุนก่อนที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (EIA) ของสหรัฐจะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 29 พ.ย.ในวันนี้เวลา 22.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 600,000-650,000 บาร์เรล
ขณะที่คาดว่าสต็อกน้ำมันกลั่นจะร่วงลง 1.6 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินอาจจะเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 0.7%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ซึ่งประกอบด้วย แอลจีเรีย แองโกลา เอกวาดอร์ อิรัก คูเวต ลิเบีย ไนจีเรีย กาตาร์ ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเวเนซูเอลา จะประชุมกันในวันที่ 4 ธ.ค. ที่กรุงเวียนนา ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าโอเปคมีแนวโน้มคงเพดานการผลิตน้ำมันที่ระดับ 30 ล้านบาร์เรล/วัน
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากวันจันทร์นี้ที่พุ่งขึ้น 1.1 ดอลลาร์ ปิดที่ 93.82 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังดัชนี ISM ภาคการผลิตของสหรัฐในเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 57.3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่เดือนเม.ย.2554 จากระดับ 56.4 ในเดือนต.ค. ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแนวโน้มการขยายตัวที่สดใสในภาคการผลิตยังคงมีความต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปี 2556