สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 18 เซนต์ ปิดที่ 97.38 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 90 เซนต์ ปิดที่ 110.98 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยการประมาณการครั้งที่ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 3/2556 โดยระบุว่าจีดีพีไตรมาส 3 ขยายตัว 3.6% มากกว่าการประมาณการครั้งแรกที่ระบุว่าเศรษฐกิจขยายตัว 2.8%
ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 30 พ.ย.ร่วงลง 23,000 ราย แตะระดับ 298,000 ราย ซึ่งเป็นการลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้
สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนมากขึ้นหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 29 พ.ย. ร่วงลง 5.59 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 385.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับลงเพียง 500,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 3% สู่ระดับ 92.4%
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับปัจจัยบวกหลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) มีมติคงเพดานการผลิตน้ำมันดิบไว้ที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในการประชุมซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย
ทั้งนี้ รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานจาก 12 ประเทศของกลุ่มโอเปคเห็นพ้องต้องกันว่า โอเปคได้ตัดสินใจคงเพดานการผลิตน้ำมันเอาไว้ในระดับดังกล่าว เนื่องจากอุปสงค์และอุปทานน้ำมันในตลาดโลก ในขณะที่กลุ่มโอเปคยังคงจัดหาน้ำมันดิบรองรับความต้องการของตลาดโลกในสัดส่วน 1 ใน 3 ของปริมาณน้ำมันดิบทั่วโลก