สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 41 เซนต์ ปิดที่ 98.91 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 21 เซนต์ ปิดที่ 111.56 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นติดต่อกันหลายวันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากนักลงทุนมองว่าการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมครั้งล่าสุด ด้วยการปรับลดวงเงินการซื้อพันธบัตรลง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน จากเดิมที่ระดับ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนนั้น สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยเฟดสาขาชิคาโก เปิดเผยว่า ดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศในเดือนพ.ย.พุ่งขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 0.6 จาก -0.07 ในเดือนต.ค. โดยได้รับแรงหนุนจากข้อมูลการจ้างงานและการผลิตที่แข็งแกร่ง
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายส่วนบุคคลในเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 0.5% หลังจากที่ปรับขึ้น 0.4% ในเดือนต.ค. โดยการใช้จ่ายของผู้บริโภคในเดือนพ.ย.พุ่งขึ้นมากที่สุดในรอบ 5 เดือน ซึ่งส่งสัญญาณถึงการจับจ่ายที่คึกคักในช่วงเทศกาลวันหยุดและบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีแนวโน้มฟื้นตัว
นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงท้ายเดือนธ.ค.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน ปรับตัวขึ้นแตะ 82.5 จาก 75.1 ในช่วงท้ายเดือนพ.ย. ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคสหรัฐมีมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงสิ้นปีนี้