สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 79 เซนต์ ปิดที่ 92.59 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 36 เซนต์ ปิดที่ 106.39 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ยอดค้าปลีกปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนธ.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้น 0.1% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ย. เนื่องจากผู้บริโภคจับจ่ายซื้อของขวัญช่วงเทศกาลและจากการที่ร้านค้าต่างพากันลดราคาสินค้าช่วงปลายปี นักลงทุนขานรับข้อมูลค้าปลีกที่ขยายตัวเกินคาด เนื่องจากข้อมูลดังกล่าวสะท้อนถึงตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 70% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของยอดค้าปลีกยังบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนจับตาดูสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ในวันพุธนี้เวลา 22.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 356.6 ล้านบาร์เรล ส่วนในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 6.24 ล้านบาร์เรล แตะที่ 227 ล้านบาร์เรล ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว สะท้อนให้เห็นว่าความต้องการพลังงานในสหรัฐเริ่มชะลอตัวลง