สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 97.84 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 94 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 107.19 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 1 ก.พ. ปรับตัวลดลง 20,000 ราย สู่ระดับ 331,000 ราย ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงแตะระดับ 335,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานและภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐยังคงมีแนวโน้มที่ดี
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงฮีทติ้งออยล์และเชื้อเพลิงดีเซล ร่วงลง 2.4 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 113.8 ล้านบาร์เรล ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 31 ม.ค. ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวลง 2 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล แตะ 235 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นราว 1.1 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล แตะ 358.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นไม่มากเท่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะพุ่งขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ อุณหภูมิที่ลดลงในสหรัฐยังเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนความต้องการเชื้อเพลิงภายในประเทศ โดยมีรายงานว่าในรัฐนิวยอร์กนั้น นายแอนดรู คัวโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วรัฐ เนื่องพายุฤดูหนาวยังคงทำให้เกิดหิมะตกหนัก น้ำแข็ง และฝนเยือกแข็ง ทั้งตอนบนและตอนล่างของรัฐ