สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 88 เซนต์ ปิดที่ 103.31 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 1 เซนต์ ปิดที่ 110.47 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า ปริมาณการใช้น้ำมันฮีทติ้งออยล์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากอิทธิพลของพายุหิมะที่พัดถล่มทั่วพื้นที่ฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ โดยระบุว่า กว่า 25% ของครัวเรือนในพื้นที่ดังกล่าวจำเป็นต้องใช้น้ำมันฮีทติ้งออยล์ในการสร้างความอบอุ่นภายในบ้าน
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ของ EIA ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันฮีทติ้งออยล์จะร่วงลง 2.1 ล้านบาร์เรล อันเนื่องมาจากอิทธิพลของพายุหิมะ
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐส่งผลให้ภาวะการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างผันผวนในระหว่างวัน โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านของสหรัฐร่วงลง 16% สู่ระดับ 880,000 ยูนิตในเดือนม.ค. จากระดับ 1,048,000 ยูนิตในเดือนธ.ค. ส่งสัญญาณว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์บรรเทาความร้อนแรงลง
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆ ซึ่งทางสหรัฐได้เปิดเผยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยนั้น กระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) สำหรับอุปสงค์ขั้นสุดท้าย ขยายตัว 0.2% ในเดือนม.ค.จากเดือนธ.ค. นับว่าขยายตัวเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน