สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 39 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 102.92 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 17 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 110.30 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 973,000 บาร์เรล แตะที่ 362.3 บาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงน้ำมันฮีทติ้งออยล์และเชื้อเพลิงดีเซล ลดลง 300,000 บาร์เรล ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะร่วงลง 1.9 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันหลังจากเอชเอสบีซี โฮลดิงส์เผย ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือนก.พ.ลดลงแตะ 48.3 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน จากระดับ 49.5 ในเดือนม.ค. โดยดัชนี PMI เบื้องต้นภาคการผลิตจีนในเดือนก.พ.ลดลงต่อเนื่อง เนื่องจากคำสั่งซื้อใหม่และการผลิตหดตัวลง
ขณะที่มาร์กิต อีโคโนมิคส์ เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของยูโรโซน ปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนที่ 52.7 ในเดือนก.พ. จากระดับ 52.9 ในเดือนม.ค.
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงไม่มานัก เนื่องจากตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยมาร์กิต อีโคโนมิคส์ เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนก.พ.ของสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 56.7 จากเดือนม.ค.ที่ระดับ 53.7 โดยดัชนี PMI เบื้องต้นเดือนก.พ.ทำสถิติสูงสุดในรอบเกือบ 4 ปี
ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 15 ก.พ.ปรับตัวลดลง 3,000 ราย สู่ระดับ 336,000 ราย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานยังคงอยู่ในภาวะฟื้นตัว