ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดลบ 55 เซนต์ วิตกอุปสงค์จีน,สหรัฐชะลอตัว

ข่าวเศรษฐกิจ Saturday February 22, 2014 06:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 ก.พ.) หลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) รายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐร่วงลงอย่างหนักในเดือนม.ค. และเอชเอสบีซีเปิดเผยว่าดัชนีภาคการผลิตของจีนหดตัวลง ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์พลังงานใน 2 ประเทศรายใหญ่ของโลก

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 55 เซนต์ ปิดที่ 102.2 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 45 เซนต์ ปิดที่ 109.85 ดอลลาร์/บาร์เรล

ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซาเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์พลังงานใน 2 จีนและสหรัฐ หลังจากNAR รายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนม.ค.ของสหรัฐ ร่วงลง 5.1% สู่ระดับ 4.62 ล้านยูนิต เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองที่สูงขึ้น และสภาพอากาศหนาวอย่างรุนแรง โดยยอดขายบ้านมือสองเดือนม.ค.ปรับตัวลงลดลงเป็นครั้งที่ 5 ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา

ขณะเอชเอสบีซี โฮลดิงส์เผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือนก.พ.ลดลงแตะ 48.3 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน จากระดับ 49.5 ในเดือนม.ค.

ทั้งนี้ ดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมภาคการผลิตของจีนหดตัวลงจากเดือนก่อนหน้า โดยนายฉู หงปิน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเอชเอสบีซีกล่าวในแถลงการณ์ว่า ดัชนี PMI เบื้องต้นภาคการผลิตจีนในเดือนก.พ.ลดลงต่อเนื่อง เนื่องจากคำสั่งซื้อใหม่และการผลิตหดตัวลง

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 973,000 บาร์เรล แตะที่ 362.3 บาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงน้ำมันฮีทติ้งออยล์และเชื้อเพลิงดีเซล ลดลง 300,000 บาร์เรล ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะร่วงลง 1.9 ล้านบาร์เรล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ