สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 1.59 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 103.33 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาดลอนดอน ร่วงลง 1.9 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 109.3 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ได้รับแรงหนุนเนื่องจากความตึงเครียดในยูเครนส่งสัญญาณคลี่คลาย หลังจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย สั่งการให้ทหารที่เข้าร่วมปฏิบัติการซ้อมรบเคลื่อนกำลังกลับฐาน นอกจากนี้ ปธน.ปูตินยังกล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยว่า ในขณะนี้ยังไม่จำเป็นที่รัสเซียจะต้องส่งทหารบุกเข้ายูเครน
การตัดสินใจดังกล่าวของประธานาธิบดีปูตินช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ยูเครน และคาดว่าจะช่วยลดผลกระทบที่มีต่อตลาดน้ำมันโลกด้วย เนื่องจากรัสเซียเป็นประเทศส่งออกน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก และสามารถผลิตน้ำมันดิบได้มากกว่า 10 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนม.ค.ปีนี้ นอกจากนี้ กว่า 70% ของน้ำมันดิบและก๊าซที่ผลิตในรัสเซียนั้น ได้ส่งออกไปยังทวีปยุโรปโดยผ่านเส้นทางในยูเครน
นอกจากนี้มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่เปิดเผยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมรัฐมนตรีพลังงานของสหภาพยุโรป (อียู) ว่า อียูไม่มีเหตุผลที่จะต้องวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปทานและการจัดส่งก๊าซอันเนื่องมาจากวิกฤตยูเครนในขณะนี้
นายกุนเธอร์ โอตติงเกอร์ กรรมาธิการด้านพลังงานของอียู กล่าวในการแถลงข่าวภายหลังการประชุมว่า หลังพ้นช่วงฤดูหนาวนี้ อียูมีการสำรองก๊าซเก็บไว้สักระยะหนึ่ง และไม่มีเหตุผลที่จะต้องวิตกเกี่ยวกับความมั่นคงด้านอุปทานก๊าซในระยะใกล้ ขณะเดียวกัน อียูจะหารือถึงชุดมาตรการเพื่อรับมือกับราคาพลังงานสูงในกลุ่มประเทศสมาชิก
นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ.ของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย หลังจากที่ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนม.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 113,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานลดลงสู่ระดับ 6.6%