สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ปรับตัวลง 1.46 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 101.12 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 92 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 108.08 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดน้ำมันนิวยอร์กปรับตัวลงหลังจากกรมศุลากรจีนรายงานว่า ยอดส่งออกในเดือนก.พ.2557 ร่วงลง 18.1% จากปีก่อน ขณะที่ยอดการนำเข้าเพิ่มขึ้น 10.1% ส่งผลให้จีนมียอดขาดดุลการค้าเดือนก.พ. 2.298 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการขาดดุลการค้าเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย. ปี 2556 นอกจากนี้ ข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีนที่ต้องพึ่งพาการส่งออกเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากจากมีรายงานว่า จีนนำเข้าน้ำมันดิบในเดือนก.พ.ทั้งสิ้น 23.08 ล้านตัน ลดลง 18% จากเดือนม.ค.
นักลงทุนจับตาดูสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างยูเครนและรัสเซียอย่างใกล้ชิด หลังจากบริษัทก๊าซพรอมของรัสเซียเปิดเผยว่า ทางบริษัทอาจระงับการส่งก๊าซไปยังยูเครน เหมือนกับที่เคยทำเช่นนี้มาแล้วเมื่อปี 2552 เนื่องจากยูเครนยังไม่ได้จ่ายค่าส่งก๊าซเดือนก.พ. พร้อมทั้งระบุด้วยว่า ยูเครนค้างชำระค่าก๊าซอยู่ 1.89 พันล้านดอลลาร์ สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์รายงานว่า ก๊าซพรอม บริษัทก๊าซธรรมชาติยักษ์ใหญ่ของรัสเซีย จะยกเลิกการให้ส่วนลดในการจัดส่งก๊าซแก่ยูเครน โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่เดือนเม.ย.นี้ รายงานอ้างคำกล่าวของนายอเล็กเซย์ มิลลิเออร์ ซีอีโอของก๊าซพรอม ซึ่งระบุถึงสาเหตุของการตัดสินใจดังกล่าวว่า เป็นเพราะยูเครนไม่สามารถปฏิบัติตามภาระผูกพันตามสัญญาได้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลกลางสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.43 ล้านบาร์เรล แตะที่ 363.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล