สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 1.09 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 100.03 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 108.55 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงเนื่องจากมีการคาดการณ์ในกลุ่มเทรดเดอร์ว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐอาจจะพุ่งขึ้น 2 ล้านบาร์เรล โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลกลางสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพุธนี้
ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังคงได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐและจีน โดยกรมศุลากรจีนรายงานว่า ยอดส่งออกในเดือนก.พ.2557 ร่วงลง 18.1% จากปีก่อน ขณะที่ยอดการนำเข้าเพิ่มขึ้น 10.1% ส่งผลให้จีนมียอดขาดดุลการค้าเดือนก.พ. 2.298 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการขาดดุลการค้าเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย. ปี 2556
ขณะที่สหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติของสหรัฐ (NFIB) รายงานว่า ความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็กปรับตัวลดลง 2.7 มาอยู่ที่ระดับ 91.4 ในเดือนก.พ. เนื่องจากเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะใกล้
นักลงทุนจับตาดูสถานการณ์ในยูเครนอย่างใกล้ชิด หลังจากรัฐสภาของสาธารณรัฐปกครองตนเองไครเมียมีมติรับคำประกาศอิสรภาพจากยูเครน ซึ่งระบุว่าไครเมียจะกลายเป็นเอกราช หากชาวไครเมียประมาณ 2 ล้านคนลงคะแนนสนับสนุนการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียในการทำประชามติวันอาทิตย์นี้
ทั้งนี้ ในวันอาทิตย์ที่ 16 มี.ค.นี้ จะมีการลงประชามติซึ่งเปิดโอกาสให้ประชาชนในไครเมียได้มีทางเลือกที่จะตัดสินใจว่า จะยังคงเป็นเขตปกครองตนเองในยูเครนต่อไป หรือจะยกดินแดนเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซีย ท่ามกลางการคัดค้านอย่างหนักจากทั้งในและนอกประเทศ