ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดลบ 81 เซนต์ จากคาดการณ์รัสเซียยังส่งออกน้ำมันให้ยุโรป

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday March 18, 2014 06:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 มี.ค.) เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า รัสเซียอาจจะไม่ระงับการส่งออกน้ำมันไปยังยุโรป หลังจากผลการลงประชามติในเขตปกครองพิเศษไครเมียระบุว่า ชาวไครเมียส่วนใหญ่ต้องการแยกตัวออกจากยูเครนและไปรวมกับรัสเซีย

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 81 เซนต์ ปิดที่ 0.8% ปิดที่ 98.08 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาดลอนดอน ร่วงลง 1.97 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 106.24 ดอลลาร์/บาร์เรล

ผลการลงประชามติในไครเมียเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้แล้วก่อนหน้านี้ โดยรัฐสภาไครเมียได้ประกาศอิสรภาพจากยูเครนเมื่อวานนี้ หลังจากผลการลงประชามติระบุว่า ชาวไครเมีย 96.77% ต้องการแยกตัวออกจากยูเครนและไปรวมกับรัสเซีย ขณะที่ชาติตะวันตกปฏิเสธการลงประชามติดังกล่าว โดยระบุว่า “ไม่ชอบด้วยกฎหมาย" และ “ขัดต่อรัฐธรรมนูญของยูเครน" นอกจากนี้ ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐยังได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรต่อเจ้าหน้าที่รัสเซีย 7 รายและเจ้าหน้าที่ยูเครน 4 ราย หลังการลงประชามติในไครเมีย

อย่างไรก็ตาม ตลาดคาดการณ์ว่ารัสเซียอาจจะไม่ระงับการส่งออกน้ำมันไปยังยุโรป แม้ว่าจะถูกคว่ำบาตรก็ตาม โดยรายงานระบุว่า กว่า 70% ของน้ำมันดิบและก๊าซของรัสเซียต้องส่งออกไปยังยุโรปผ่านเส้นทางของยูเครน

นักวิเคราะห์กล่าวว่า แม้สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดลบ แต่ตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กรายงานว่า ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนมี.ค.เพิ่มขึ้นแตะ 5.61 หลังจากที่ดัชนีเดือนก.พ.ร่วงลงแตะ 4.48 โดยสะท้อนถึงกิจกรรมภาคการผลิตในนิวยอร์กที่ปรับตัวดีขึ้น

ส่วนการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ.ปรับตัวขึ้น 0.6% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% และบ่งชี้ว่าภาคอุตสาหกรรมเริ่มฟื้นตัวขึ้นหลังจากเผชิญสภาพอากาศที่หนาวเย็นรุนแรง ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 0.3% แตะ 78.8% ในเดือนก.พ.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ