ข้อมูลที่สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐทำให้นักลงทุนมีความคาดหวังว่าจะช่วยหนุนความต้องการพลังงานให้เพิ่มขึ้นด้วย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยการประมาณการครั้งสุดท้ายสำหรับจีดีพีไตรมาส 4/2556 ในวันนี้ โดยระบุว่าจีดีพีขยายตัวในอัตรา 2.6% เพิ่มขึ้นจากการประมาณการครั้งก่อนที่ระดับ 2.4% เพราะได้แรงหนุนจากตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าการประมาณการในครั้งก่อน และบ่งชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวที่แข็งแกร่งขึ้น
ทั้งนี้ ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ขยายตัว 3.3% ซึ่งเป็นการขยายตัวที่แข็งแกร่งมากที่สุดในรอบ 3 ปี และมากกว่าการประมาณการครั้งก่อนที่ 2.6% เนื่องจากผู้บริโภคใช้จ่ายในด้านสุขภาพและสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้น โดยตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคคิดเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐ
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 22 มี.ค. ลดลง 10,000 ราย แตะที่ 311,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2556 และตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 323,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 320,000 ราย บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงฟื้นตัว
ความแข็งแกร่งของข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐทำให้นักลงทุนมองข้ามปัจจัยลบอันเนื่องมาจากข้อมูลของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 21 มี.ค. พุ่งขึ้น 6.6 ล้านบาร์เรล แตะที่ 382.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.8 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึง heating oil และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 112.4 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล