สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 1.02 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 101.28 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 107.83 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ได้รับแรงหนุนหลังจาก EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบที่จุดส่งมอบน้ำมันดิบเมืองคุชชิง รัฐโอกลาโฮมา สิ้นสุด ณ วันที่ 21 มี.ค. ลดลงกว่า 1.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งลดลงมากกว่าที่สถาบันปิโตรเลียมของสหรัฐ (API) รายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบลดลงเพียง 1 ล้านบาร์เรล
ขณะเดียวกันสัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในยูเครน โดยนับตั้งแต่ที่อดีตประธานาธิบดีวิกเตอร์ ยานูโควิช ต้องลี้ภัยออกนอกยูเครนเมื่อเดือนก.พ. อันเนื่องมาจากการชุมนุมประท้วงรัฐบาลที่ยืดเยื้อนาน 3 เดือนนั้น การเมืองของยูเครนก็ตกอยู่ในภาวะระส่ำระสาย
ล่าสุดมีรายงานว่า ยูเลีย ทีโมเชงโก อดีตนายกรัฐมนตรียูเครน ประกาศในวันนี้ว่า เธอจะลงแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดียูเครน ในการเลือกตั้งวันที่ 25 พ.ค.นี้
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 22 มี.ค. ลดลง 10,000 ราย แตะที่ 311,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2556 และตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 323,000 ราย
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยการประมาณการครั้งสุดท้ายสำหรับตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4/2556 โดยระบุว่าจีดีพีขยายตัวในอัตรา 2.6% เพิ่มขึ้นจากการประมาณการครั้งก่อนที่ระดับ 2.4% เพราะได้แรงหนุนจากตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าการประมาณการในครั้งก่อน