สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 2.12 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 102.56 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 1.85 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 107.67 ดอลลาร์/บาร์เรล
สถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบ โดยมีรายงานว่านาโต้ได้ออกมาเตือนรัสเซียเกี่ยวกับการแทรกแซงยูเครน หลังจากกลุ่มผู้สนับสนุนรัสเซียได้เข้ายึดอาคารที่ทำการหลายแห่งของรัฐบาลในเมืองโดเนตสค์ทางภาคตะวันออกของยูเครน โดยเรียกร้องให้รัฐบาลกระชับความสัมพันธ์กับรัสเซีย รวมถึงเรียกร้องให้มีการทำประชามติเพื่อแยกตัวจากยูเครน
ทั้งนี้ สถานการณ์ความไม่แน่นอนในยูเครนถือเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อตลาดน้ำมัน เนื่องจากรัสเซียส่งออกน้ำมันกว่า 70% ของน้ำมันดิบและก๊าซไปยังยุโรป โดยผ่านเส้นทางในยูเครน
นักลงทุนจับตาดูสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันประสัปดาห์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 28 มี.ค. ลดลง 2.4 ล้านบาร์เรล แตะ 380.1 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นราว 700,000 บาร์เรล
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยนั้น สหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติของสหรัฐ (NFIB) รายงานว่า ความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็กปรับตัวดีขึ้นในเดือนมี.ค. เนื่องจากสภาพอากาศเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ
NFIB เปิดเผยว่า ดัชนีมุมมองเชิงบวกของธุรกิจขนาดเล็ก ปรับตัวขึ้น 2 จุด สู่ระดับ 93.4 ในเดือนมี.ค. หลังจากสภาพอากาศที่รุนแรงได้ฉุดให้ดัชนีร่วงลงแตะ 91.4 ในเดือนก.พ. จากระดับ 94.1 ในเดือนม.ค.