สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 20 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 103.4 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 52 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 107.46 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI อ่อนแรงลงหลังจากทางการจีนเปิดเผยว่า ยอดส่งออกเดือนมี.ค.ร่วงลง 6.6% แตะที่ 1.7011 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดนำเข้าลดลง 11.3% แตะที่ 1.6241 แสนล้านดอลลาร์ ส่งผลให้มูลค่าการค้าต่างประเทศของจีนลดลง 9% แตะระดับ 3.3252 แสนล้านดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ลิเบียอาจจะส่งออกน้ำมันดิบได้มากขึ้นหลังจากกลุ่มกบฎได้ยอมให้รัฐบาลเข้าควบคุมดูแลท่าเรือขนส่งน้ำมัน 2 แห่ง หลังจากที่กลุ่มกบฎและรัฐบาลได้ทำข้อตกลงกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่ามา ซึ่งจะทำให้ลิเบียสามารถส่งออกน้ำมันดิบจากท่าเรือทั้ง 2 แห่งได้ในเร็วๆนี้
นักวิเคราะห์จากเจบีซี เอนเนอร์จี คาดการณ์ว่า ลิเบียจะสามารถส่งออกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรลต่อวันในเร็วๆนี้ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 550,000 บาร์เรลต่อวันในช่วงต้นเดือนพ.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 5 เม.ย. ปรับตัวลง 32,000 ราย สู่ระดับ 300,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.ปี 2550 หรือระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 7 ปี สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง