สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 1 เซนต์ ปิดที่ 103.76 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 24 เซนต์ ปิดที่ 109.60 ดอลลาร์/บาร์เรล
ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา หลังจาก EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 11 เม.ย.พุ่งขึ้น 10 ล้านบาร์เรล แตะ 394.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นมากที่สุดในรอบ 13 ปี และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.5 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึง heating oil และน้ำมันดีเซล ลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 111.9 ล้านบาร์เรล ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงแค่ 100,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 200,000 บาร์เรล แตะ 210.3 ล้านบาร์เรล จากที่คาดการณ์ว่าจะลดลงราว 1.4 ล้านบาร์เรล
ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 1.3% สู่ระดับ 88.8% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะขยับขึ้นแค่ 0.1%
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีน โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ช่วงไตรมาส 1/2557 ขยายตัว 7.4% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอลงจากอัตรา 7.7% ในช่วงไตรมาส 4/2556