เมื่อเวลาประมาณ 12.47 น.ตามเวลาลอนดอนในวันนี้ สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนพ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 52 เซนต์ แตะที่ 104.28 ดอลลาร์/บาร์เรล
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ยูเครนได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบ โดยประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย เตือนว่าวิกฤติความขัดแย้งในยูเครนที่รุนแรงขึ้นทำให้ยูเครนมีแนวโน้มจะเผชิญกับสงครามกลางเมือง พร้อมกับย้ำถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหาด้านเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของยูเครน ตลอดจนการจัดส่งและขนถ่ายก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียไปยังยุโรป
ทั้งนี้ รายงานล่าสุดระบุว่า สหภาพยุโรป รัสเซีย สหรัฐอเมริกา และยูเครน ได้เริ่มเปิดฉากเจรจาแล้วในวันนี้ ที่นครเจนีวา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหาทางแก้ไขสถานการณ์ตึงเครียดที่กำลังดำเนินอยู่ในยูเครนขณะนี้ โดยนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย เดินทางถึงเจนีวาช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อเข้าร่วมเจรจาระดับสูงกับนางแคเธอรีน แอชตัน ผู้แทนระดับสูงฝ่ายกิจการต่างประเทศและนโยบายความมั่นคงของอียู นายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ และนายแอนดรีย์ เดสชิตเซีย รักษาการรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของยูเครน ซึ่งเดินทางถึงเจนีวาตั้งแต่วันพุธ
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 11 เม.ย.พุ่งขึ้น 10 ล้านบาร์เรล แตะที่ระดับ 394.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 13 ปี และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.5 ล้านบาร์เรล
นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 12 เม.ย.ในวันนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 315,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 300,000 ราย