ทั้งนี้ เมื่อเวลา 13.33 น.ตามเวลาลอนดอน สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนมิ.ย.ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 52 เซนต์ แตะที่ 100.25 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI อ่อนแรงลงเนื่องจากกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนเริ่มคลี่คลายลง หลังจากวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้สั่งถอนกองกำลังทหารออกจากชายแดนยูเครนแล้ว พร้อมกับเรียกร้องเลื่อนการลงประชามติแยกตัวเป็นเอกราช ซึ่งมีกำหนดการในวันอาทิตย์ที่ 11 พ.ค. "เพื่อสร้างเงื่อนไขที่จำเป็นต่อการเจรจา" ร่วมกับยูเครน
ทั้งนี้ ปูตินได้เปิดเผยระหว่างการประชุมร่วมกับนายดีดีเย บูร์คฮัลเทอร์ ประธานาธิบดีสมาพันธรัฐสวิส ณ กรุงมอสโคว ว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดียูเครนคนใหม่ ซึ่งมีกำหนดการในวันที่ 25 พ.ค. ถือว่าเป็น "ความก้าวหน้าครั้งสำคัญในทิศทางที่ถูกต้อง" แต่ก็เตือนว่าการดำเนินการดังกล่าวเพียงอย่างเดียวจะไม่ช่วยแก้ปัญหาทั้งหมด แต่จำเป็นต้องทำให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าพวกเขาได้รับสิทธิ์อย่างถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่ออกมาเป็นบวกได้ช่วยสกัดแรงลบของสัญญาน้ำมันดิบ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 3 พ.ค. ลดลง 26,000 ราย สู่ระดับ 319,000 ราย ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 325,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงฟื้นตัว
ขณะที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 2 พ.ค. ปรับตัวลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล แตะที่ 397.6 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงฮีทติ้งออยล์ และน้ำมันดีเซล ลดลง 447,000 บาร์เรล สู่ระดับ 114 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรล แตะที่ 213.2 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 0.8% แตะที่ 90.2%