สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนก.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ดีดตัวขึ้น 42 เซนต์ แตะที่ 103.14 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเวลา 09.40 น.ตามเวลานิวยอร์กในวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจากนายโอลคซานด์ เทอร์ไชนอฟ รักษาการประธานาธิบดียูเครนเปิดเผยว่า กลุ่มก่อการร้ายได้ใช้อาวุธยิงเฮลิคอปเตอร์ของทหารยูเครน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 คน โดยจุดเกิดเหตุอยู่ใกล้กับเมืองสลอฟยานส์
นายเทอร์ไชนอฟกล่าวว่า เฮลิคอปเตอร์ซึ่งบรรทุกเหล่าทหารที่จะเดินทางไปประจำการตามหน้าที่ ได้ถูกยิงตกด้วยอาวุธติดจรวดซึ่งผลิตในรัสเซีย โดยเหตุการณ์ดังกล่าวนับเป็นหนึ่งในความสูญเสียครั้งใหญ่ของกองทัพยูเครน ซึ่งเหตุการณ์ล่าสุดสะท้อนให้เห็นว่ายูเครนยังคงเผชิญกับภาวะวิกฤต แม้ก่อนหน้านี้หลายฝ่ายได้คลายความวิตกกังวลลงหลังจากนายเปโตร โปโรเชนโก ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดียูเครน
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลแรงงานที่สดใสของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 24 พ.ค. ปรับตัวลง 27,000 ราย แตะที่ 300,000 ราย ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะปรับตัวลงสู่ระดับ 318,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง
นักลงทุนจับตาดูสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ในวันนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล