ราคาน้ำมันดิบเดินหน้าขึ้นต่อเนื่องจากวานนี้ โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 1.75 ดอลลาร์ ปิดที่ 104.41 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค. หรือในรอบสามเดือน เพราะได้แรงหนุนจากยอดส่งออกที่แข็งแกร่งของจีน และตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐที่ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ค.
นักลงทุนรอดูรายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (EIA) ของสหรัฐในวันพุธนี้ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลง 1.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านพลังงานของภาคเอกชน มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่ารัฐมนตรีกลุ่มโอเปคจะคงเพดานการผลิตน้ำมันของกลุ่มไว้ที่ระดับเดิม พร้อมกับจับตาดูว่าซาอุดิอาระเบียจะผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นหรือไม่
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังติดตามการเจรจาระหว่างยูเครนและรัสเซียอย่างใกล้ชิดด้วยเช่นกัน โดยกระทรวงการต่างประเทศของยูเครนเผยว่า การประชุมสองวันที่ผ่านมาในกรุงเคียฟได้นำไปสู่ข้อตกลงเพื่อนำแผนสันติภาพส่วนหนึ่งของประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโกของยูเครนไปปฏิบัติ
อย่างไรก็ตาม ที่บรัสเซลส์เมื่อคืนนี้ รัสเซียและยูเครนยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับราคาก๊าซและหนี้ค้างชำระของยูเครนได้ โดยกรรมาธิการด้านพลังงานของอียูเผยกับผู้สื่อข่าวว่าจะมีการเจรจากันต่อในวันนี้หรือพรุ่งนี้