สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ปรับตัวลง 54 เซนต์ ปิดที่ 106.36 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 51 เซนต์ ปิดที่ 113.45 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นราว 4% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์รุนแรงในอิรัก โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 38 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 106.91 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย.2556 ขณะที่ตลอดทั้งนี้สัปดาห์ ราคาพุ่งขึ้น 4.1% ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าราคาน้ำมันดิบได้ซึมซับปัจจัยเกี่ยวกับสถานการณ์อิรักไปแล้ว และราคาอาจกำลังพุ่งขึ้นสูงเกินไป
ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงนักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์รุนแรงในอิรักอย่างใกล้ชิด โดยนายกรัฐมนตรี นูรี อัล-มาลีกี ของอิรัก กำลังพยายามหาทางยึดดินแดนที่ถูกกลุ่มรัฐอิสลามอิรักและเลอแวนท์ (ISIL) ยึดครองไปกลับคืนมา ขณะที่กองกำลังชาวเคิร์ดได้เคลื่อนกำลังพลออกนอกเขตปกครองตนเองทางตอนเหนือของประเทศ และกำลังช่วยกันปกป้องเมืองเคอร์คุก ซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันใหญ่อันดับสี่ของอิรัก จากกลุ่มติดอาวุธ
อย่างไรก็ดี สำนักงานพลังงานสากล (IEA) เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ผลผลิตน้ำมันของอิรักยังไม่ได้รับความเสียหายจากสถานการณ์รุนแรงในประเทศ
นักลงทุนรอดูรายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (EIA) ของสหรัฐในวันพุธนี้ ขณะที่การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านพลังงานของภาคเอกชน มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้