สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ ปิดที่ 106.43 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ ปิดที่ 115.06 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ยังคงได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์รุนแรงในอิรัก โดยเว็บไซต์ CNN รายงานว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐวางแผนที่จะส่งกองกำลังชุดพิเศษเข้าไปประจำการในอิรัก ขณะที่ก่อนหน้านี้กลุ่มหัวรุนแรงนิกายสุหนี่ได้โจมตีโรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไบจิ จังหวัดซาลาฮูดินของอิรัก ซึ่งส่งผลให้เกิดเพลิงไหม้อย่างรุนแรง
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า บริษัทเอ็กซอน โมบิล และบีพี ได้เริ่มย้ายพนักงานออกจากอิรัก หลังจากกบฏหัวรุนแรงจากกลุ่มรัฐอิสลามแห่งอิรักและเลแวนท์ (ISIL) ได้ยึดอำนาจเมืองทางตอนเหนือของกรุงแบกแดกของอิรัก ขณะที่ปัจจุบันความขัดแย้งได้ขยายไปยังตอนใต้ของประเทศแล้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ EIA ประเมินว่าเป็นฐานการผลิตน้ำมัน 3 ใน 4 ของอิรัก
ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาดูสถานการณ์ในอิรักอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอิรักเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ในกลุ่มโอเปค รองจากซาอุดิอาระเบีย โดยสำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า อิรักสามารถผลิตน้ำมันได้สูงถึง 2.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูท่าทีของสหรัฐ หลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา ประกาศว่าจะส่งที่เจ้าหน้าที่ที่ปรึกษาทางทหาร 300 คนเข้าไปในอิรัก
ตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้รับแรงหนุนมากขึ้นจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนพ.ค.ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.5% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเวลา 4 เดือน ขณะที่ดัชนีแนวโน้มธุรกิจในภาคการผลิตของเขตมิด-แอตแลนติกของสหรัฐเพิ่มขึ้นแตะระดับ 17.8 ในเดือนมิ.ย. จากระดับของเดือนพ.ค.ที่ 15.4 สะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มผู้ผลิตในภูมิภาคดังกล่าวของสหรัฐยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ