สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 13 เซนต์ ปิดที่ 103.40 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดลอนดอน ร่วงลง 1.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 108.94 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการผลิตน้ำมันดิบในอิรัก
ทั้งนี้ แม้กลุ่มรัฐอิสลามได้เข้ายึดครองหลายจังหวัดในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอิรัก แต่หลายฝ่ายก็คาดว่าการส่งออกน้ำมันของประเทศจะไม่ได้รับผลกระทบ โดยเชื่อว่าเหตุการณ์ความไม่สงบจะไม่ลุกตามไปยังตอนใต้ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันถึงกว่าสามในสี่ของอิรัก ขณะที่เขตปกครองตนเองชาวเคิร์ดเผยว่า ชาวเคิร์ดจะยังคงปกป้องเมืองเคอร์คุกซึ่งเป็นที่ตั้งของแหล่งน้ำมันใหญ่อันดับสี่ของอิรักต่อไป
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในอิรักซึ่งผลักดันให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมานั้น ได้เริ่มบรรเทาเบาบางลงแล้ว โดยการส่งออกน้ำมันกำลังจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่กลุ่มติดอาวุธก็ไม่ได้รุกคืบไปทางตอนใต้
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังปรับตัวลดลงหลังจากกระทรวงพลังงานของลิเบียเปิดเผยว่า ท่าเรือเอส ซีเดอร์ ซึ่งเป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของลิเบีย และท่าเรือราส ลานุฟ ซึ่งเป็นท่าเรือที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ มีน้ำมันดิบในปริมาณ 7.5 ล้านบาร์เรลที่พร้อมจะส่งออกไปยังต่างประเทศ
ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวทำให้ตลาดคาดการณ์ว่า อาจจะมีน้ำมันดิบหลายแสนบาร์เรลจากลิเบียเข้าสู่ตลาดน้ำมันโลก ซึ่งจะฉุดราคาน้ำมันดิบให้ปรับตัวลดลง
ก่อนหน้านี้อุตสาหกรรมการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียได้รับผลกระทบจากกลุ่มกบฎที่ก่อเหตุปิดท่าเรือขนส่งน้ำมันหลายแห่ง ส่วนท่าเรือเอส ซีเดอร์และท่าเรือราส ลานุฟ ก็เพิ่งจะกลับมาเปิดทำการได้อีกครั้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว