สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 95 เซนต์ ปิดที่ 99.96 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 96 เซนต์ ปิดที่ 106.02 ดอลลาร์/บาร์เรล
ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังคงได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่าอุปทานน้ำมันของลิเบียจะเพิ่มสูงขึ้น หลังจากที่แหล่งน้ำมันเอล ชารารา และคลังส่งออกน้ำมันสองแห่งได้เริ่มกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้ง โดยเจ้าหน้าที่จากเนชั่นแนล ออยล์ คอร์ป เผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า แหล่งน้ำมันเอล ชารารา ทางตอนใต้ของประเทศ กำลังเพิ่มการผลิตน้ำมัน และได้เพิ่มผลผลิตน้ำมันของประเทศเป็น 350,000 บาร์เรล/วันแล้วในขณะนี้
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า สถานการณ์รุนแรงในอิรักไม่ได้แผ่ขยายไปทางตอนใต้ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันใหญ่สุดของประเทศ และการส่งออกจากทางใต้ของอิรักในเดือนนี้ก็อาจฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 2.6 ล้านบาร์เรล/วัน เทียบกับระดับ 2.42 ล้านบาร์เรลในเดือนมิ.ย. ทั้งนี้ อิรักเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับสองของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังซบเซาลงหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ค.
นักลงทุนรอดูรายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (EIA) ของสหรัฐในวันพุธนี้ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐอาจจะร่วงลง 2.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินและสต็อกน้ำมันกลั่นจะปรับตัวขึ้น