สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 42 เซนต์ ปิดที่ 97.34 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 85 เซนต์ ปิดที่ 105.44 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจากมีรายงานว่า กองกำลังติดอาวุธยังคงเดินหน้าปะทะกับกองกำลังทหารอิรัก โดยอิรักเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของโอเปค รองจากซาอุดิอาระเบีย ขณะที่รายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า อิรักส่งออกน้ำมันได้ 2.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ขณะเดียวกันสัญญาน้ำมันดิบ WTI ยังได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตก หลังจากรัฐบาลรัสเซียได้สั่งห้ามการนำเข้าอาหารจากสหภาพยุโรปและสหรัฐ เพื่อตอบโต้ประเทศเหล่านี้ที่ใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย
นอกจากนี้ การปรับตัวลดลงของสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐนับเป็นอีกปัจจัยที่หนุนสัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นด้วย โดย IEA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล แตะ 365.6 ล้านบาร์เรลในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 1 ส.ค. ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึง heating oil และน้ำมันดีเซล ลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 124.9 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินร่วงลง 4.4 ล้านบาร์เรล แตะ 213.8 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล