สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 51 เซนต์ ปิดที่ 93.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 15 เซนต์ ปิดที่ 102.5 ดอลลาร์/บาร์เร
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส โดยคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 92.4 ในเดือนส.ค. จากระดับ 90.3 ในเดือนก.ค.
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนทำสถิติพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 22.6% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2535 และสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์มาก เนื่องจากความต้องการเครื่องบินพาณิชย์ที่ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่ง
นอกจากนี้ ความแข็งแกร่งของข้อมูลตลาดที่อยู่อาศัยก็ช่วยหนุนตลาดเช่นกัน โดยสำนักงานเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FHFA) รายงานว่า ราคาบ้านของสหรัฐปรับตัวขึ้น 0.8% ในไตรมาสสองของปี 2557 ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นไตรมาสที่ 12 ติดต่อกัน และสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่า ดัชนีราคาบ้านใน 20 เมือง ปรับตัวขึ้น 1% ในเดือนมิ.ย.เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นรายเดือนเป็นเดือนที่สี่ติดต่อกัน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์อ่อนแรงลงเนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนเริ่มผ่อนคลายลง หลังจากมีรายงานว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย และประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก ของยูเครน ได้จับมือทักทายกัน ก่อนที่การประชุมในกรุงมินสก์ เมืองหลวงของประเทศเบลารุสได้เปิดฉากขึ้นเมื่อวานนี้ เพื่อหาทางแก้ไขวิกฤตในยูเครน
ผู้นำรัสเซียและยูเครนเข้าร่วมการประชุมสุดยอด "Eurasian Three" เมื่อวานนี้ ร่วมกับผู้นำเบลารุส และคาซัคสถาน รวมถึงแคธรีน แอชตัน หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) โดยหัวข้อหลักในการหารือครั้งนี้คือ การคลี่คลายให้สถานการณ์ในภาคตะวันออกของยูเครนกลับสู่ความมีเสถียรภาพ
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ซึ่งจะมีขึ้นในเวลา 21.30 น.ตามเวลาไทยในวันนี้