สัญญาน้ำมันได้รับแรงกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ หลังจากที่จีนและยุโรปเปิดเผยตัวเลขภาคการผลิตที่ชะลอตัวในเดือนส.ค.
สหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) และสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยวานนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนส.ค.ลดลงแตะ 51.1 จาก 51.7 ในเดือนก.ค. ขณะที่สำรวจของมาร์กิตระบุว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของยูโรโซนในเดือนส.ค.ปรับตัวลงแตะ 50.7 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 13 เดือน จากระดับ 51.8 ในเดือนก.ค. และลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับตัวเลขเบื้องต้นที่ 50.8
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตที่น่าผิดหวังดังกล่าวได้ฉุดราคาน้ำมันลง โดยตลาดมีความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ลดลง ขณะที่การผลิตเพิ่มสูงขึ้น ท่ามกลางการคาดการณ์เกี่ยวกับปริมาณการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค)
สำหรับในวันนี้ จะมีการเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตของสหรัฐ ทั้งจาก ISM และมาร์กิต ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขอาจออกมาสอดคล้องกับข้อมูลภาคการผลิตของประเทศเศรษฐกิจสำคัญอื่นๆที่มีการเปิดเผยไปเมื่อวานนี้
ทั้งนี้ ตลาด NYMEX ปิดทำการซื้อขายในระบบปกติ (Floor-trading) เมื่อวานนี้ เนื่องในวันแรงงาน หลังจากที่เมื่อวันศุกร์ สัญญา WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ปิดเพิ่มขึ้น 1.41 ดอลลาร์ แตะที่ 95.96 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐในเดือนส.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี และยังได้รับแรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครนที่ตึงเครียดขึ้นอีกครั้ง