สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 1.35 ดอลลาร์ ปิดที่ 93.07 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน ร่วงลง 1.27 ดอลลาร์ ปิดที่ 97.7 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงเนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 13 ก.ย. ปรับตัวลง 36,000 ราย แตะที่ 280,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. และลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 305,000 ราย
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของอุปสงค์พลังงานในสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 12 ก.ย. พุ่งขึ้น 3.7 ล้านบาร์เรล แตะที่ 362.3 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะร่วงลง 1.2 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบได้รับปัจจัยบวกในระหว่างวัน หลังจากนายอับดุลเลาะห์ เอล-บาดรี เลขาธิการกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) เปิดเผยว่า กลุ่มโอเปคอาจจะปรับลดโควต้าการผลิตน้ำมันดิบในปีหน้าลง 500,000 บาร์เรลต่อวัน หลังจากที่ในการประชุมเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมานั้น กลุ่มโอเปคซึ่งประกอบไปด้วยสมาชิก 12 ประเทศ มีมติคงเพดานการผลิตน้ำมันดิบเอาไว้ที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน