สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 89 เซนต์ ปิดที่ 91.52 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย.ที่ตลาดลอนดอน ร่วงลง 1.42 ดอลลาร์ ปิดที่ 96.97 ดอลลาร์/บาร์เรล
ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและสหรัฐอาจทำให้ความต้องการพลังงานในประเทศขนาดใหญ่ทั้งสองแห่งนี้ ลดน้อยลงด้วย โดยเมื่อวานนี้ นายโหลว จี้เหว่ย รมว.คลังของจีนได้กล่าวว่า จีนจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายขนานใหญ่ แม้ว่าเศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญแรงกดดันในช่วงขาลงก็ตาม
ด้านสหรัฐนั้น สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองในเดือนส.ค.ลดลง 1.8% สู่ระดับ 5.05 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 5 เดือน และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นแตะ 5.20 ล้านยูนิต
ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก เปิดเผยว่า ดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศในเดือนส.ค.ลดลงแตะ -0.21 จาก +0.26 ในเดือนก.ค. ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ชะลอลงต่ำกว่าแนวโน้ม
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า บ่อน้ำมันซาฮารา ซึ่งเป็นบ่อน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของลิเบีย ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์โจมตีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และจะเริ่มกลับมาดำเนินการผลิตได้อีกครั้งในเร็วๆนี้ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่าอุปทานน้ำมันจากตะวันออกกลางจะสูงขึ้น และจะกดราคาน้ำมันปรับตัวลง