สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ปรับตัวขึ้น 1.01 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 93.54 ดอลลาร์/บาร์เรล สำหรับตลอดทั้งสัปดาห์ ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น 1.2%
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย.ที่ตลาดลอนดอน ไม่เปลี่ยนแปลงที่ 97 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ทั้งสัปดาห์ สัญญาเบรนท์ลดลง 1.4% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงสัปดาห์ที่สามในรอบสี่สัปดาห์
น้ำมัน WTI ได้แรงหนุน หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐ ขยายตัว 4.6% ในไตรมาสสองของปี 2557 ซึ่งเป็นอัตราขยายตัวที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2554
โดยจีดีพีล่าสุด ซึ่งเป็นตัวเลขประมาณการครั้งที่สามและครั้งสุดท้าย ได้รับการปรับทบทวนขึ้นจากตัวเลขประมาณก่อนหน้านี้ที่ 4.2% และพลิกกลับมาขยายตัวจากไตรมาสแรกที่หดตัว 2.1%
การปรับตัวเพิ่มขึ้นของจีดีพีไตรมาสสองมีปัจจัยสนับสนุนหลักๆ มาจากการใช้จ่ายผู้บริโภค การส่งออก และการลงทุนในสินค้าคงคลังภาคเอกชน เป็นต้น
นอกจากตัวเลขจีดีพีแล้ว ข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคก็ปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงท้ายเดือนก.ย.ของรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน เพิ่มขึ้นแตะระดับ 84.6 ในเดือนก.ย. จาก 82.5 ในเดือนส.ค. ซึ่งชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคสหรัฐยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ยังทรงตัว เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจในเอเชียและยุโรป ประกอบกับมีรายงานเรื่องอุปทานน้ำมันดิบในปริมาณมากจากลิเบีย โดยบริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบียเผยว่า ผลผลิตน้ำมันของลิเบียเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงที่ 925,000 บาร์เรล/วัน