สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 43 เซนต์ ปิดที่ 90.73 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 51 เซนต์ ปิดที่ 94.16 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงหลังจากมีรายงานว่าบริษัทซาอุดิอาราเบียน ออยล์ โค ได้ปรับลดราคาขายน้ำมันดิบสำหรับลูกค้าในเอเชีย โดยได้ปรับลดราคาลงราว 20 เซนต์ ถึง 1.2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การที่ซาอุดิอาระเบียปรับลดราคาขายน้ำมันดิบเป็นเพราะต้องการชิงส่วนแบ่งตลาด และถือเป็นการส่งสัญญาณว่าซาอุดิอาระเบียจะไม่ปรับลดการผลิตน้ำมันดิบในอนาคต ซึ่งข่าวดังกล่าวได้สร้างแรงกดดันต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์ก
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงเพียงเล็กน้อย เพราะตลาดได้รับแรงหนุนหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 26 ก.ย. ร่วงลง 1.4 ล้านบาร์เรล แตะ 356.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค. และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นราว 900,000 บาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล แตะ 208.5 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 2.9 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 125.7 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยADP เปิดเผยว่า ภาคเอกชนสหรัฐจ้างงานเพิ่ม 213,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 205,000 ตำแหน่ง ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.ย.ของสหรัฐ ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้