สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันจากอุปทานน้ำมันจำนวนมาก หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) รายงานว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปคโดยเฉลี่ยรายวันอยู่ที่ 30.47 ล้านบาร์เรล ซึ่งเพิ่มขึ้น 402,000 บาร์เรลจากเดือนที่แล้ว
ส่วนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 3 ต.ค.เพิ่มขึ้น 5 ล้านบาร์เรล แตะ 361.65 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.9 ล้านบาร์เรล และได้ถ่วงราคาน้ำมันลง
นอกจากนี้ ความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์ในตลาดโลกที่อ่อนแรงลงก็เป็นปัจจัยที่ฉุดราคาน้ำมัน โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้เป็นขยายตัว 3.3% ซึ่งลดลง 0.1% จากที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนก.ค. และปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในปีหน้าลง 0.2% สู่ระดับ 3.8%
นักลงทุนมองว่าแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่ซบเซาจะส่งผลให้ความต้องการน้ำมันในตลาดโลกย่ำแย่ลงด้วย