สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 92 เซนต์ ปิดที่ 82.7 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 69 เซนต์ ปิดที่ 84.47 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงติดต่อกันหลายวันทำการ นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐก็ช่วยหนุนสัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นด้วย โดยเมื่อวานนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 23,000 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา แตะที่ 264,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2543 สวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 290,000 ราย
ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นมาตรวัดผลผลิตในภาคการผลิต สาธารณูปโภค และเหมืองแร่ของสหรัฐ ขยายตัว 1.0% ในเดือนก.ย. หลังจากที่หดตัวลง 0.2% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะขยายตัวเพียง 0.4%
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงขึ้นทั่วโลก โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 10 ต.ค.พุ่งขึ้น 8.9 ล้านบาร์เรล แตะที่ 370.6 ล้านบาร์เรล เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นราว 2.2 ล้านบาร์เรล
ก่อนหน้านี้ สำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่า ในปีนี้ทั่วโลกจะใช้น้ำมันดิบเพิ่มขึ้นประมาณ 650,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์คราวก่อน 250,000 บาร์เรล