สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 5 เซนต์ ปิดที่ 82.75 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 34 เซนต์ ปิดที่ 86.16 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมัน WTI ขยับขึ้นเมื่อวานนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่สดใส เมื่อวานนี้มีการเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงต้นเดือนต.ค.จากรอยเตอร์และมหาวิทยาลัยมิชิแกน ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 86.4 จากระดับเดือนก.ย.ที่ 84.6
ดัชนีที่ปรับตัวสูงขึ้นนี้ บ่งชี้ว่า ผู้บริโภคมีมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจของประเทศ ในขณะที่ราคาน้ำมันอ่อนตัวลง และตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่งขึ้น
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐยังเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนก.ย.ปรับตัวขึ้น 6.3% มาอยู่ที่ 1.02 ล้านยูนิต ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 4.3% โดยข้อมูลด้านที่อยู่อาศัยที่ปรับตัวดีขึ้นดังกล่าว บ่งชี้ว่าการสร้างงานอย่างต่อเนื่องและอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง อาจเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนภาคก่อสร้างของสหรัฐในช่วงปลายปีนี้
ทั้งนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่สดใสได้ช่วยบรรเทาความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมัน จากการที่สำนักงานพลังงานสากล (IEA) เปิดเผยในรายงานประจำเดือนว่า คาดว่าในปีนี้ทั่วโลกจะใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นประมาณ 650,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์คราวก่อน 250,000 บาร์เรล
ขณะที่ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่อย่างซาอุดิอาระเบียประกาศมอบส่วนลดราคาน้ำมันให้แก่ลูกค้าในทวีปเอเชีย ซึ่งนักวิเคราะห์ประเมินว่า เป็นความเคลื่อนไหวที่ต้องการจะชิงส่วนแบ่งตลาด และถือเป็นการส่งสัญญาณว่าซาอุดิอาระเบียจะไม่ปรับลดการผลิตน้ำมันดิบในอนาคต