สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 40 เซนต์ ปิดที่ 73.69 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 58 เซนต์ ปิดที่ 77.75 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้รับแรงกดดันหลังจาก EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 พ.ย.พุ่งขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล แตะ 383 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 100,000 บาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอคลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งน้ำมัน ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะ 24.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.
ประเทศสมาชิกกลุ่มโอเปคซึ่งผลิตน้ำมันดิบได้ในสัดส่วน 1 ใน 3 ของโลก จะประชุมร่วมกันในวันพฤหัสบดีนี้ที่กรุงเวียนา ประเทศออสเตรีย เพื่อประเมินว่าควรจะปรับลดเพดานการผลิตน้ำมันดิบหรือไม่ หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกร่วงลงอย่างหนัก ในขณะที่อุปทานน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ สมาชิกกลุ่มโอเปคยังคงมีมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับเพดานการผลิตน้ำมัน โดยเวเนซูเอล่าและอิหร่านต่างก็ส่งสัญญาณว่าโอเปคควรจะปรับลดการผลิต ในขณะที่ซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ของกลุ่มโอเปคนั้น สนับสนุนให้มีการปรับลดราคาน้ำมันเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาด แทนการปรับลดการผลิต
นายอาลี อัล-ไนมี รมว.พลังงานของซาอุดิอาระเบียคาดการณ์ว่า ตลาดน้ำมันโลกจะยังคงมีเสถียรภาพ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า ซาอุดิอาระเบียจะไม่สนับสนุนให้กลุ่มโอเปคปรับลดเพดานการผลิตในการประชุมครั้งนี้ นักวิเคราะห์บางคนมองว่า โอเปคอาจจะต้องปรับลดการผลิตน้ำมันลงอย่างน้อย 3% หรือราว 1 ล้านบาร์เรล จึงจะสามารถสกัดการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบได้ แต่หากกลุ่มโอเปคยังตรึงเพดานการผลิต หรือลดการผลิตลงเพียงเล็กน้อย ก็จะยิ่งทำให้ราคาน้ำมันร่วงลงอีก