สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 2.44 ดอลลาร์ ปิดที่ 48.69 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ.ที่ตลาดลอนดอน พุ่งขึ้น 1.9 ดอลลาร์ ปิดที่ 50.17 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวหลังจาก IEA ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปคลง 350,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งถือเป็นการปรับลดการคาดการณ์ครั้งแรกนับตั้งแต่ที่ทางหน่วยงานได้เริ่มเผยแพร่การคาดการณ์ของปี 2558 เมื่อเดือนก.ค.ปีที่แล้ว
การปรับลดคาดการณ์ครั้งนี้เป็นเพราะผลผลิตของประเทศโคลัมเบียที่ลดลง ในขณะที่ผลกระทบต่อการผลิตของสหรัฐนั้นยังมีไม่มากนัก อย่างไรก็ดี IEA มองว่า ผลผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปคที่ชะลอตัวลงจะช่วยทำให้ตลาดน้ำมันทั่วโลกซึ่งปัจจุบันอยู่ในภาวะอุปทานล้นตลาดนั้น กลับคืนสู่ภาวะสมดุลอีกครั้งในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งจะส่งผลให้ราคาน้ำมันฟื้นตัวขึ้นด้วย
ด้านสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะเคลื่อนไหวโดยเฉลี่ยที่ 58 ดอลลาร์/บาร์เรลในปี 2558 และ 75 ดอลลาร์/บาร์เรลในปี 2559 พร้อมกับคาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบ WTI จะเคลื่อนไหวต่ำกว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์อยู่ประมาณ 3-4 ดอลลาร์
นอกจากนี้ EIA คาดว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 9.3 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2558 ส่วนปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมานั้น EIA ประมาณการว่าอยู่ที่ระดับ 9.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน