สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 1.31 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.78 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 1.04 ดอลลาร์ ปิดที่ 49.03 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นกว่า 1 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากที่ราคาร่วงลงราว 2.3 ดอลลาร์เมื่อวันอังคาร อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจากไอเอ็มเอฟได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ สู่ระดับ 3.5% ซึ่งลดลง 0.3% จากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ และยังได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีหน้าลงสู่ระดับ 3.7% ในปีหน้า
นายอับดุลลาห์ เอล-บาดรี เลขาธิการกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ได้กล่าวให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวในระหว่างการประชุมเศรษฐกิจโลกที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ว่า ราคาน้ำมันดิบอาจจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 45-50 ดอลลาร์/บาร์เรล ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นจากระดับดังกล่าว
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้เวลา 23.00 น.ตามเวลาไทย หลังจากที่ EIA เปิดเผยในรายงานประจำสัปดาห์ก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 5.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 417,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมัน เพิ่มขึ้น 1.776 ล้านบาร์เรล