สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 2.37 ดอลลาร์ ปิดที่ 51.21 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 2.39 ดอลลาร์ ปิดที่ 57.05 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงเพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินเยนที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ อันเนื่องมาจากยอดค้าปลีกเดือนม.ค.ของสหรัฐที่ปรับตัวลดลง 0.8% สู่ระดับ 4.3977 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 0.5%
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า บริษัทโททาล เอสเอ ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานของฝรั่งเศส ประกาศลดการลงทุนลงเหลือ 2.3-2.4 หมื่นล้านดอลลาร์ จากปีที่แล้วที่ระดับ 2.6 หมื่นล้านดอลลาร์ และยังได้ปรับลดงบประมาณด้านการสำรวจน้ำมันลง 30% สู่ระดับ 1.9 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้
ขณะที่บริษัทอาปาเช คอร์ปอเรชัน ประกาศลดจำนวนแท่นขุดเจาะลง 70%
ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้บริษัทพลังงานทั้งสองแห่งปรับลดงบประมาณการลงทุนนั้น เนื่องจากการร่วงลงราคาน้ำมันดิบในช่วงก่อนหน้านี้ได้ส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัท
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นหลังจากที่ร่วงลงเมื่อวันพุธที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 4.9 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 417.9 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 3.7 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน เพิ่มขึ้น 1.214 ล้านบาร์เรล แตะที่ 42.6 ล้านบาร์เรล