ณ เวลา 18.25 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมี.ค.ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลบ 68 เซนต์ หรือ 1.27% แตะ 52.85 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ดิ่งลง 1.04 ดอลลาร์ หรือ 1.66% สู่ระดับ 61.49 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากพุ่งขึ้นมากกว่า 1% เมื่อวานนี้
นายกาเร็ธ ลูว์อิส-เดวีส์ และนายแฮร์รี ชิลลิงกูเรียน นักวิเคราะห์น้ำมันของบีเอ็นพี พาริบาส์ ระบุในรายงานว่า การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในระยะนี้ ถือว่าเร็วเกินไป เนื่องจากสต็อกน้ำมันดิบในสหรัฐยังคงมีปริมาณมากเป็นประวัติการณ์
"การปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นน้ำมันสหรัฐจะกระทบอุปสงค์น้ำมันดิบ และเพิ่มแรงกดดันจากภาวะน้ำมันดิบล้นตลาดในระยะใกล้" รายงานระบุ
ผลสำรวจคาดว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจะเพิ่มขึ้นอีก 3.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่อยู่ที่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์อยู่แล้วก่อนหน้านี้
ราคาน้ำมันได้พุ่งขึ้นมากกว่า 35% นับตั้งแต่ทรุดตัวแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 6 ปีที่ 45.19 ดอลลาร์ในเดือนที่แล้ว โดยได้แรงหนุนจากการลดการใช้จ่ายด้านการขุดเจาะและสำรวจน้ำมันของบริษัทพลังงานหลายแห่ง รวมทั้งจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ลดลงในสหรัฐ
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ของสหรัฐ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ เวลา 23.00 น.ตามเวลาไทย