ณ เวลา 19.17 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนมี.ค.ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX บวก 7 เซนต์ หรือ 0.14% แตะ 51.23 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (19 ก.พ.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงหลังจาก EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 7.7 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 425.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ที่ EIA เริ่มทำการเก็บข้อมูลตั้งแต่เดือนส.ค.1982 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 3.7 ล้านบาร์เรล
สำหรับสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน เพิ่มขึ้น 3.7 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 46.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีครึ่ง
ด้านสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 485,000 บาร์เรล สู่ระดับ 243.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.1990 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 3.8 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2 ล้านบาร์เรล
ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด และได้ฉุดสัญญาน้ำมันดิบปรับฐานลง หลังจากที่พุ่งขึ้นก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากรายงานผลสำรวจของเบเกอร์ ฮิวจ์ที่ระบุว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐลดลงอย่างมากถึง 84 แห่ง สู่ระดับ 1,056 แห่ง ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2011