สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 1.71 ดอลลาร์ ปิดที่ 48.29 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 2.14 ดอลลาร์ ปิดที่ 56.39 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ อันเป็นผลมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 295,000 ตำแหน่ง มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 240,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานลดลงแตะ 5.5% จากระดับ 5.7% ในเดือนม.ค.
ทั้งนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์จะทำให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 6 มี.ค.ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในเปิดเผยในวันนี้ จะพุ่งขึ้น 4.8 ล้านบาร์เรล
ขณะที่ EIA ประมาณการว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 9.3 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2558 และ 9.5 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2560 ซึ่งใกล้เคียงกับระดับสูงสุดที่ 9.6 ล้านบาร์เรลต่อวันซึ่งเคยเกิดขึ้นในปี 2513