ณ เวลา 19.33 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 39 เซนต์ หรือ 0.81% แตะ 47.59 ดอลลาร์/บาร์เรล
ดอลลาร์ดีดตัวเหนือระดับ 123 เยนในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนเพิ่มคำสั่งซื้อสินทรัพย์เสี่ยง หลังเห็นว่าตลาดหุ้นจีนพุ่งขึ้นกว่า 3% ในวันนี้
ณ เวลา 19.13 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.22% สู่ระดับ 123.76 เยน และดีดตัว 0.24% สู่ระดับ 1.1033 เทียบยูโร ขณะที่ยูโรอ่อนค่าลง 0.12% สู่ระดับ 136.50 เยน ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ขยับขึ้น 0.16% สู่ระดับ 96.804
ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ทำให้สัญญาน้ำมันมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ภาวะน้ำมันล้นตลาด ก็เป็นปัจจัยถ่วงราคาน้ำมันเช่นกัน หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่า อิหร่านอาจจะผลิตและส่งออกน้ำมันได้มากขึ้น เมื่อการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านมีผลบังคับใช้
รายงานของเบเกอร์ ฮิวจ์ระบุว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 21 แท่น เป็น 659 แท่น ซึ่งส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่า อุปทานน้ำมันในสหรัฐและตลาดโลกยังคงอยู่ในระดับที่สูงเกินไป ซึ่งจะสร้างแรงกดดันให้กับราคาน้ำมัน
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ของสหรัฐ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันนี้เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย
ส่วนสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น พุ่งขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 463.9 ล้านบาร์เรล ซึ่งตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล