ณ เวลา 17.54 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนธ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ร่วงลง 1.18 ดอลลาร์ หรือ 2.79% สู่ระดับ 40.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักวิเคราะห์คาดว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวลงต่อไปจากภาวะไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานในตลาดโลก ท่ามกลางปริมาณน้ำมันล้นตลาด ขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันลดลง
ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น จะลดความน่าดึงดูดของสัญญาน้ำมัน โดยทำให้สัญญามีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า ขณะที่ยูโรถูกกดดันจากแนวโน้มที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อในภูมิภาค
ณ เวลา 17.49 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ดีดตัวขึ้น 0.32% สู่ระดับ 123.19 เยน และแข็งค่า 0.24% สู่ระดับ 1.0623 เทียบยูโร ขณะที่ยูโรขยับขึ้น 0.12% สู่ระดับ 130.86 เยน ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.32% สู่ระดับ 99.879
นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟด สาขานิวยอร์ก กล่าวว่า เฟดควรเตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้า ขณะที่กรรมการเฟดมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าอัตราเงินเฟ้อจะดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำ และการจ้างงานจะยังคงมีเสถียรภาพ
นายดัดลีย์ยังกล่าวว่า เป็นเรื่องที่สมเหตุผลที่จะคาดว่าภาวะเงินเฟ้อและการจ้างงานจะสอดคล้องกับเป้าหมายของเฟดในไม่ช้า ซึ่งจะทำให้กรรมการเฟดเริ่มคิดถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น