สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (30 มี.ค.) โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ทำสถิติปิดบวกเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ หลังจากมีรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ระบุว่า การผลิตน้ำมันจากอิหร่านจะไม่ทำให้เกิดภาวะปริมาณน้ำมันล้นตลาดรุนแรงอย่างที่ตลาดคาดการณ์ไว้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดบวก 4 เซนต์ หรือ 0.1% แตะที่ 38.32 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค.ที่ตลาดลอนดอน ปิดเพิ่มขึ้น 12 เซนต์ หรือ 0.3% แตะที่ 39.26 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้นหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 25 มี.ค. เพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 534.8 ล้านบาร์เรล แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ รายงานสต็อกน้ำมันของ EIA ยังต่ำกว่าที่ สถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในช่วงสัปดาห์ดังกล่าวปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล
ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนหลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ระบุว่า ปริมาณน้ำมันจากอิหร่านจะไม่ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำมันล้นตลาดรุนแรงอย่างที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
"ปริมาณน้ำมันทั่วโลกยังคงเพิ่มขึ้นในปีนี้ แต่การผลิตน้ำมันของอิหร่านก็ไม่ได้ส่งผลให้มีปริมาณน้ำมันจำนวนมากไหลทะลักเข้าตลาดอย่างที่คาดการณ์ไว้" IEA ระบุในรายงานล่าสุด
นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มโอเปก ในวันที่ 17 เม.ย.นี้ ที่เมืองโดฮา ประเทศกาตาร์ เพื่อหารือเกี่ยวกับการจำกัดการผลิตน้ำมัน