สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (25 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด หลังจากมอร์แกน สแตนลีย์และธนาคารบาร์เคลย์ส ได้แสดงความเห็นในทิศทางเดียวกันว่า ปริมาณน้ำมันในสหรัฐยังอยู่ในระดับที่สูงมาก นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากเบเกอร์ ฮิวส์ รายงานว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 1.06 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 43.13 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 97 เซนต์ หรือ 2.1% ปิดที่ 44.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซาตลอดทั้งวัน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายงานจากเบเกอร์ ฮิวส์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับน้ำมัน ระบุว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่เปิดใช้งานในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 14 แห่ง เป็น 371 แห่งในสัปดาห์ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากธนาคารบาร์เคลย์สระบุว่า อุปสงค์น้ำมันโลกในไตรมาส 3 มีการขยายตัวต่ำกว่าปีที่แล้วราว 1 ใน 3 โดยได้รับผลกระทบจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ซบเซา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐกิจของจีนและอินเดียที่ชะลอตัวลงอย่างมาก
ด้านมอร์แกน สแตนลีย์เปิดเผยว่า ปัจจัยลบทางเศรษฐกิจมีมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ส่งผลให้มีการปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมัน นอกจากนี้ มอร์แกน สแตนลีย์ยังได้ระบุถึงปริมาณน้ำมันในสหรัฐที่ยังคงอยู่ในระดับสูง และอุปสงค์น้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อการขนส่งที่ปรับตัวลดลง ขณะที่โรงกลั่นประสบภาวะน้ำมันมากเกินความต้องการ
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในเวลา 21.30 น.ตามเวลาไทยในวันพรุ่งนี้