สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 ก.ย.) ขานรับข่าวที่ว่า ซาอุดิอาระเบียและรัสเซียได้ประกาศความร่วมมือในการรักษาเสถียรภาพตลาดน้ำมัน ขณะที่อิหร่านได้ออกมาสนับสนุนกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันให้เดินหน้ารักษาเสถียรภาพในตลาด
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 39 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 44.83 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 37 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 47.26 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นหลังจากนายบิจาน นามดาร์ ซานเกเนห์ รมว.น้ำมันของอิหร่าน กล่าวเมื่อวานนี้ว่า อิหร่านสนับสนุนการตัดสินใจของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันในการรักษาเสถียรภาพในตลาด
นายซานเกเนห์กล่าว หลังพบปะกับนายโมฮัมหมัด ซานูซี บาร์คินโด ประธานกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เมื่อวานนี้ที่กรุงเตหะราน พร้อมระบุว่า สมาชิกโอเปกส่วนใหญ่ต้องการเห็นราคาน้ำมันดิบอยู่ที่ระดับ 50-60 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งราคาในระดับดังกล่าวจะช่วยให้โอเปกมีกำไร ขณะเดียวกัน จะป้องกันไม่ให้คู่แข่งของโอเปกทำการเพิ่มการผลิตน้ำมัน
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากซาอุดิอาระเบียและรัสเซียได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันในการประชุมสุดยอด G20 ที่นครหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยระบุถึงความร่วมมือของทั้ง 2 ประเทศในการรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมัน ท่ามกลางภาวะตลาดที่มีความผันผวน
ทั้งนี้ ซาอุดิอาระเบียและรัสเซียจะจัดตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อจับตาภาวะตลาด และให้คำแนะนำในการรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมัน นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศตกลงที่จะร่วมมือกันในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ด้านการพลังงาน
นักลงทุนจับตาดูการประชุมอย่างไม่เป็นทางการของกลุ่มโอเปกในวันที่ 26-28 ก.ย.นี้ โดยจะจัดนอกรอบการประชุมพลังงานระหว่างประเทศ (IEF) ที่แอลจีเรีย ซึ่งที่ประชุมจะหารือการตรึงกำลังการผลิต เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมัน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตารายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ของสหรัฐ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพรุ่งนี้