สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงกว่า 2% ในวันนี้ โดยได้รับผลกระทบจากการที่สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ระบุว่า การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันโลกอยู่ในอัตราต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้
ณ เวลา 19.19 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนต.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 1.06 ดอลลาร์ หรือ 2.29% สู่ระดับ 45.23 ดอลลาร์/บาร์เรล
IEA ระบุในวันนี้ว่า การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันโลกอยู่ในอัตราต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ และตลาดจะใช้เวลามากขึ้นในการปรับตัวสู่ระดับสมดุล
IEA คาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.3 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ โดยปรับลดลง 100,000 บาร์เรล/วัน จากคาดการณ์ก่อนหน้านี้ ขณะที่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวในไตรมาส 3
นอกจากนี้ IEA ยังคาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันจะลดลงต่อไปสู่ระดับ 1.2 ล้านบาร์เรล/วันในปีหน้า เนื่องจากยังคงมีความไม่แน่นอนต่อภาวะเศรษฐกิจมหภาค
IEA ระบุว่า ความต้องการใช้น้ำมันของจีนและอินเดียยังคงอ่อนแอ ส่งผลให้การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันร่วงลงจาก 1.4 ล้านบาร์เรล/วันในไตรมาส 2 สู่ระดับ 0.8 ล้านบาร์เรล/วันในไตรมาส 3 และสู่ระดับ 0.1 ล้านบาร์เรล/วันในไตรมาส 4
IEA ระบุว่า ถึงแม้ผลผลิตน้ำมันจากประเทศนอกกลุ่มโอเปกยังคงลดลง ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันโลกลดลง 300,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 96.9 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนส.ค. แต่ผลผลิตน้ำมันจากโอเปกยังคงเพิ่มขึ้น ขณะที่สต็อกน้ำมันในกลุ่มประเทศองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
IEA เตือนว่า อุปทานน้ำมันจะยังคงสูงกว่าอุปสงค์อย่างน้อยจนถึงช่วงครึ่งแรกของปีหน้า ทำให้การปรับสมดุลในตลาดต้องใช้เวลามากขึ้น
นอกจากนี้ การขุดเจาะน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ ก็เป็นอีกปัจจัยที่กดดันตลาดในวันนี้
เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมน้ำมันสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ใช้งานในสหรัฐเพิ่มขึ้น 7 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 414 แท่น ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสัปดาห์ที่ 10 ติดต่อกัน
ทั้งนี้ จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ทำให้คาดว่าอุปทานน้ำมันจะเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยถ่วงราคาน้ำมัน